Impossible dream for MERCI FUND?? SO HOT?

Maybe CDD FUND OR STOCKS IN MARKET better?

Change into Public fund or organization..for your invest???

Stocks and sharing benefit for all employee or civil citizen???

Opinion » Columnists

The Dirty Politics of the Nobel Peace Prize

23.10.2014

 

By Peter Baofu, Ph.D.

The award of the 2014 Nobel Peace Prize to Pakistan's Malala Yousafzai and India's Kailash Satyarthi raises anew the persistent question concerning the dirty politics of the Norwegian Nobel Committee in the past decades. There are 3 major evidences to back up this claim.   

(1) 1^st EVIDENCE -- BOTH WINNERS HAVE MADE NO ACHIEVEMET FOR WORLD PEACE

The first evidence for the dirty politics of the Norwegian Nobel Committee is that both Malala Yousafzai and Kailash Satyarthi have made no achievement for world peace.

Markets

Dow Futures	16,779.00	+43.00	+0.26%
Nasdaq Futures	4,044.75	+10.00	+0.25%
S&P Futures	1,963.00	+3.25	+0.17%
10 Year Yield	2.27%	-0.00	--
Gold	$1,229.00	-2.80	-0.23%
Oil	$81.21	-0.55	-0.67%

http://money.cnn.com/

Stunning images of the Sun

Amateur astronomer Jose Manteca from Begues, who lives near Barcelona, took these photos from a small observatory on the terrace of his house. The 54-year-old man says he spends hours on the terrace gazing into space. He has developed a technique to take 15 images per second using a humble DSLR camera and a solar telescope. Images include stunning close-ups of solar prominences, sunspots and even a plane crossing the face of the sun All photos: Splash/All Over Press

Society

http://siamdailynews.com/archives/
http://www.bangkokbank.com/BangkokBankThai/PersonalBanking/BuildYourWealth/MutualFunds/EquityFund/Pages/BKIND.aspx

1. ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment)
2. ด้านสังคม (Social)
3. ด้านธรรมาภิบาล (Good Governance)
4. ด้านต่อต้านคอร์รัปชั่น (Anti-Corruption)

คำเตือน:

• การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงาน ก่อนการตัดสินใจลงทุน
• กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ อยู่ในดุลพินิจของ
  ผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่า
  เงินลงทุนเริ่มแรกได้

กองทุนรวม คนไทยใจดี

การลงทุน...ที่ให้คุณทำดีตั้งแต่บาทแรกของเงินลงทุน

จุดเด่นของกองทุน

กองทุนจะเน้นการระดมเงินจากผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลไปลงทุนในกิจการที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ต่อสังคม
มีธรรมภิบาลที่ดี และร่วมต่อต้านการคอร์รัปชั่น โดยยึดหลักการสร้างความยั่งยืนและแสวงหาผลตอบแทนในระยะยาว นอกจากนี้บริษัทจัดการ
มีนโยบายบริจาคเงินบางส่วนจากค่าธรรมเนียมการจัดการที่เรียกเก็บจากกองทุน ให้กับมูลนิธิหรือหน่วยงานอื่นใดที่มีส่วนร่วมเพื่อสังคมไทย
อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

รายละเอียดกองทุน ข้อมูลสำคัญกองทุน ชื่อกองทุน: กองทุนรวมคนไทยใจดี (BKIND) ประเภทกองทุน: กองทุนรวมตราสารแห่งทุน วัตถุประสงค์ของโครงการ: เพื่อระดมเงินจากผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ไปลงทุนในกิจการเพื่อสังคมอย่างมี ส่วนร่วม โดยยึดหลักการสร้างความยั่งยืนและแสวงหาผลตอบแทนในระยะยาว นโยบายการลงทุน: กองทุนมีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ/หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หรือตลาดรองอื่นๆ ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะ ลงทุนในตราสารแห่งทุนดังกล่าวเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ใน 4 ด้าน ดังนี้ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ด้านสังคม (Social) ด้านธรรมาภิบาล (Good Governance) ด้านต่อต้านคอร์รัปชั่น (Anti-Corruption) ทั้งนี้ สัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ส่วนที่เหลือ ลงทุนในตราสารแห่งทุนนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น รวมถึงหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียน (Unlisted Securities) ตราสารแห่งหนี้ ตราสารการเงิน และ/หรือเงินฝาก ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดหรือให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนตราสารต่อไปนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment Grade)  และตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจมีไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment Grade) เฉพาะกรณีที่ตราสารแห่งหนี้นั้นได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ณ วันที่ลงทุนเท่านั้น อนึ่ง อาจมีบางขณะที่ไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามสัดส่วนการลงทุนที่กำหนดไว้ในโครงการด้วยเหตุต่างๆ เช่น มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ หรือเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตจาก ภัยธรรมชาติที่มีนัยสำคัญต่อการลงทุน โดยบริษัทจัดการจะรายงานการไม่สามารถลงทุนในหรือมีไว้ซึ่ง ตราสารแห่งทุนให้เป็นไปตามสัดส่วนดังกล่าวข้างต้นแก่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตามที่ประกาศกำหนด การลงทุนในต่างประเทศ: ไม่มีการลงทุนในต่างประเทศ นโยบายการจ่ายเงินปันผล: ไม่มี เกณฑ์การบริจาคเงิน: โครงการมีนโยบายบริจาคเงินให้กับมูลนิธิหรือหน่วยงานอื่นใดที่มีส่วนร่วมเพื่อสังคมไทยอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยบริษัทจัดการจะเป็นผู้บริจาคเงินให้ในอัตราร้อยละ 40 ของค่าธรรมเนียมการจัดการที่เรียกเก็บจากกองทุน เกณฑ์วัดผลการดำเนินงาน (Benchmark): ดัชนี SET Index จำนวนเงินทุนของโครงการ: 5,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ ราคาเสนอขาย และมูลค่าขั้นต่ำของการซื้อ ครั้งแรกและครั้งต่อไป: มูลค่าที่ตราไว้ 10 บาท ราคาเสนอขาย 10 บาท และมูลค่าขั้นต่ำในการจองซื้อ ครั้งแรก 1,000 บาท ครั้งต่อไป 1,000 บาท ช่วงเสนอขายครั้งแรก (IPO): 20 - 28 ตุลาคม 2557 ช่องทางในการทำคำสั่งซื้อ ช่วงเสนอขายครั้งแรก (IPO): ผ่านบริษัทจัดการ และผ่านผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืน วันจดทะเบียนกองทุนรวม และวันเริ่มลงทุน: 30 ตุลาคม 2557 วันทำการแรกที่สามารถเสนอขาย หรือรับซื้อคืนหรือสับเปลี่ยนหน่วย ลงทุนภายหลัง IPO: วันทำการถัดจากวันที่จดทะเบียนกองทุนรวมแล้ว การรับคำสั่งซื้อหน่วยลงทุน: ทุกวันทำการซื้อขาย การรับคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุน: ทุกวันทำการซื้อขาย ช่องทางในการทำรายการซื้อขายภายหลังการขายครั้งแรก (หลัง IPO): บริษัทจัดการ/ผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืน หักบัญชีเงินฝากแบบถัวเฉลี่ย (DCA) ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ ระบบบัวหลวงไอแบงก์กิ้ง ระบบเอทีเอ็ม และระบบโทรศัพท์ หรือ ระบบงานอื่นใดที่อาจให้บริการเพิ่มเติม ทั้งนี้ จะมีการแจ้งให้ทราบถึงวันที่เริ่มให้บริการทำรายการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อีกครั้ง ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุน ค่าธรรมเนียมการขาย: ไม่มี ค่าธรรมเนียมรับซื้อคืนฯ: ไม่เกินอัตราร้อยละ 1 ของมูลค่าหน่วยลงทุน (ขั้นต่ำ 50 บาท โดยหักออกจากมูลค่ารับซื้อคืนที่ต้องจ่าย ผู้ถือหน่วยลงทุน) ค่าธรรมเนียมสับเปลี่ยนฯ: ไม่มี ค่าธรรมเนียมการโอนหน่วยฯ: 50 บาท ต่อ 1,000 หน่วย หรือเศษของ 1,000 หน่วย ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม (1) ค่าธรรมเนียมการจัดการ: ไม่เกินร้อยละ 2.00 ต่อปีของ NAV (2) ทั้งนี้ บริษัทจัดการจะนำไปบริจาคในอัตราร้อยละ 40 ของ ค่าธรรมเนียมการจัดการที่เรียกเก็บจากกองทุนให้กับมูลนิธิหรือหน่วยงานอื่นใดที่มีส่วนร่วมเพื่อสังคมไทย ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์: ไม่เกินร้อยละ 0.04 ต่อปีของ NAV (2) ค่าธรรมเนียมนายทะเบียน: ไม่เกินร้อยละ 0.05 ต่อปีของ NAV (2) ค่าโฆษณาฯ: ในการเสนอขายครั้งแรก ไม่เกินร้อยละ 1.00 ของมูลค่าเงินทุนที่จดทะเบียนและครั้งต่อไป ไม่เกินร้อยละ 0.50 ต่อปีของ NAV ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ: ตามที่จ่ายจริง เพดานค่าธรรมเนียม ที่ประมาณการได้ (3) จะไม่เกินอัตราร้อยละ 3.00 ต่อปีของ NAV หมายเหตุ (1) ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นภาระของกองทุนรวม (2) การคำนวณค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะคำนวณจากมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดหักด้วยมูลค่าหนี้สินทั้งหมด เว้นแต่ค่าธรรมเนียมการจัดการ     ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุน (3) ค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุน ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโฆษณา (แต่ไม่รวม    ค่าโฆษณาในการเสนอขายครั้งแรก) และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สามารถประมาณการได้ เช่น ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการสอบบัญชี    ค่าจัดทำเอกสารต่างๆ ของกองทุน เช่น หนังสือชี้ชวน สมุดบัญชีแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน เอกสารต่างๆ ถึงผู้ถือหน่วยลงทุน รวมถึงค่าจัดส่ง    เอกสารดังกล่าวเมื่อรวมกันแล้วจะไม่เกินร้อยละ 3.00 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นการประมาณการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของกองทุน จำนวนผู้ถือหน่วยลงทุน เป็นต้น แต่ทั้งนี้จะไม่เกินกว่าอัตราขั้นสูงของยอดรวมค่าธรรมเนียม เงินตอบแทน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ได้ระบุไว้อย่างชัดแจ้งในโครงการ ผู้เกี่ยวข้องการจัดการ: 1. บริษัทจัดการ 2. ผู้ดูแลผลประโยชน์ 3. นายทะเบียนฯ 4. ผู้สอบบัญชี 1. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด 2. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 3. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 4. บริษัท พีวี ออดิท จำกัด

คำเตือน:

• การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงาน ก่อนการตัดสินใจลงทุน
• กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ อยู่ในดุลพินิจของ
  ผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่า
  เงินลงทุนเริ่มแรกได้

	name: 27 Oct 14   แกะสลักเขาควาย เพิ่มมูลค่างาน ความภาคภูมิใจของจังหวัดฉะเชิงเทรา Attachment:::
	name: 27 Oct 14   #พะเยา#ขอแสดงความยินดียิ่งกับ นายมโนชญ์ เทศอินทร์ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิติมศักดิ์ ม.ราชภัฏเชียงราย ปี ๒๕๕๗ ผู้ก่อตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา {{คลิปข่าว}} http://bit.ly/1srPFY1 Attachment:::
	name: 27 Oct 14   <อ่างทอง>นายอัศวิน หนูจ้อย พัฒนาการจังหวัดอ่างทอง นำทีมหัวหน้ากลุ่มงาน / ฝ่าย นักวิชาการพัฒนาชุมชน ประชุมทบทวนยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ Attachment:::

Extraordinary projects in CDD..for release big gap.. higher income..

CDD try to make better life for all until ageing  time..sufficiency..by king policy...as model..

นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผอ.สำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นฯ ร่วมรับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น ปี 2554 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2554 ณ อาคารประชุม (ห้องวายุภักษ์ 2 – 3) ชั้น 4 และลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ โดยมี นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายสุรชัย  ขันอาสา อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ให้สนับสนุนการจัดงาน โดยจัดบูธนิทรรศการผลิตภัณฑ์ OTOP ของกลุ่มหัตถกรรมกลึงไม้มะม่วงศรีกะอาง จังหวัดนครนายก ทั้งนี้มี นางปุณนุช  สุดแดน ประธานกลุ่มหัตถกรรมกลึงไม้มะม่วงศรีกะอาง ร่วมทูลเกล้าถวาย “โคมไฟไม้มะม่วงกลึง” เป็นของที่ระลึกแด่ใต้ฝ่าละอองพระบาท  คลิ๊กดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์กองประชาสัมพันธ์ Elderly face growing risk of poverty, warns OECD Published: 6 Sep 11 11:33 CET Share Germans face a growing risk of living out their old age in poverty as low-earners fail to set aside enough for their retirement, the Organisation for Economic Cooperation and Development has warned. More pensioners working low-paid jobs to get by (22 Aug 11) German workers retiring later in life (27 Jul 11) Families go grey with granny au pairs (14 Jul 11) “Germany is right at the back internationally in terms of retirement security for low-earners,” said Monika Queisser, head of the OECD’s section on social policy in an interview with Die Welt newspaper. “The strict connection between contributions and service, results in people who have worked for their whole lives and have only had a low income being in danger of poverty in their old age.” She said those people who had gaps in their working lives due to unemployment or due to raising a family were particularly at risk of ending up poor when they got old. A further problem was the limited number of people paying into pensionschemes – in Germany only those with jobs are included, leaving many self-employed people either insufficiently covered or without any pension plan at all. “Old-age poverty is not yet so widespread, but it will increase markedly if one does not take precautions now,” she said. She praised the fact that discussions are planned for this week, involving Labour Minister Ursula von der Leyen, trades unions and associations as well as social policy experts. A conference is set to start on Wednesday. Yet Die Welt reported that von der Leyen does not intend to offer much change – the paper said on Tuesday that she had already completed her concept for a small pensions reform, which would not involve significant increases to low pensions. Only those who have made at least 45 years of pensions contributions and yet still do not have enough income to clear a basic level, would be granted a top-up payment. Other tweaks should make things slightly more comfortable in the light of the statutory retirement age being raised to 67, but the cost of the changes has been capped to €2 billion, said von der Leyen. Opposition politicians have accused her of not taking the dangers seriously. Other countries such as Denmark and Holland shared around pension provisionmuch more than Germany, said Queisser, while New Zealand guarantees all pensioners a state-funded payment of 40 percent of the average wage, which is granted to everyone, regardless of other income. She said Germany could manage to improve its situation, praising the fact that over the last few years private options have been made more attractive to those on lower wages. The Local/hc http://www.thelocal.de/money/20110906-37411.html